กฏระเบียบต่างๆ


ข้อ 1 สมาคมนี้มีชื่อว่า “อัล-อิศลาหฺสมาคม”  ใช้อักษรย่อว่า ออส.   ชื่อภาษาอังกฤษว่า  AL-ISLAH ASSOCIATION

ข้อ 2 สำนักงานและห้องสมุด  ตั้งอยู่บริเวณมัสยิดอันซอริซซุนนะห์  เลขที่ 60/1 ริมคลองบางกอกน้อย แขวงอรุณอัมรินทร์  เขต บางกอกน้อย  กรุงเทพ 10700

วัตถุประสงค์

ข้อ 3 อัล-อิศลาหฺสมาคม มีวัตถุประสงค์โดยสังเขปดังต่อไปนี้ คือ
3.1 เผยแผ่ศาสนาอิสลาม ตามหลักกิตาบุลลอฮฺ  และ ซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด (ศอลฯ)
3.2 อบรมสมาชิก และพี่น้องมุสลิมในด้านศาสนกิจ สังคม และมารยาท  ตามแบบแผนอันถูกต้องของอิสลาม
3.3 ส่งเสริมความสามัคคีและการกีฬาอันไม่ขัดต่อบัญญัติ อิสลาม
3.4 ป้องกันและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงแห่งศาสนาอิสลาม
3.5 รับอัลซะกาตและจัดสรรค์  ตลอดจนการอุทิศอื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของพี่น้องมุสลิมตามขอบเขตแห่ง บัญญัติอิสลาม  และเพื่อใช้จ่ายในกุศลสาธารณะ เช่น อุด หนุนการศึกษาช่วยเด็กกำพร้า แม่หม้าย ฯลฯ  ตามระเบียบ การที่คณะกรรมการอำนวยการจะได้ตราขี้น
3.6 สงเคราะห์ผู้ประสบภัยพิบัติ  และเกื้อกูลสมาชิกที่ตก อยู่ในความทุกข์ยากตามสมควรแก่ฐานานุรูปและความจำเป็น
3.7 ร่วมมือและส่งเสริมกิจกรรมกับองค์กรหรือสถาบันทาง ศาสนาที่เผยแผ่อิสลาม ตามหลักกิตาบุลลอฮฺ และซุนนะฮฺ  ที่ยึดมั่นในแนวทางเดียวกัน

ประเภทสมาชิก

ข้อ 4 สมาชิก  แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
4.1 การพิจาณาให้เข้าเป็นสมาชิก  โดยชำระค่าบำรุงให้สมาคม 100  บาทต่อปี  (กรณีเปลี่ยนแปลงสมาคมจะแจ้งให้ทราบ)
4.2 สมาคมครั้งเดียวไม่น้อยกว่า 1,500 บาท
4.3 สมาชิกเพื่อให้เป็นเกียรติแก่สมาคม  โดยที่ผุ้นั้นไม่เคยเป็น สมาชิกเลย  สมาชิกประเภทนี้ไม่ต้องเสียค่าบำรุงหรือค่า ธรรมเนียมใด ๆ  แต่ไม่มีสิทธิที่จะรับตำแหน่งกรรมการฯ เจ้าหน้าที่  ทั้งไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมสมาชิก

คุณสมบัติสมาชิก

ข้อ 5 ผู้ที่จะได้รับเข้าเป้นสมาชิกได้  ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
5.1 และพร้อมที่จะปฏิบัติตามระเบียบการต่าง ๆ ของสมาคมทุก ประการ
5.2 มีความเสียหาย
5.3 มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เป็นที่รังเกียจของสังคม
5.4 ไม่เป็นผู้ที่ประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์หรือให้ร้ายต่อสมาคม

การรับเข้าเป็นสมาชิก

ข้อ 6 ผู้ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวในข้อ 5  ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิก ให้ยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคม ต่อเลขานุการสมาคมหรือ คณะกรรมการของสมาคม  พร้อมชำระค่าสมัคร 20  บาท และค่าบำรุงตามประเภทที่สมัคร  เมื่อเลขานุการรับใบสมัครแล้ว/// ให้เลขานุการนำรายชื่อผู้สมัครเสนอต่อนายกสมาคม  ภายใน 7 วัน  เพื่อนำเสนอคณะกรรมการอำนวยการพิจารณา    ในการประชุมประจำเดือน 
กรณีที่คณะกรรมการอำนวยการพิจารณาไม่ อนุมัติ  ให้เลขานุการคืนเงินค่าสมัครและค่าบำรุงคืนแก่ผู้ที่ไม่ได้ รับการอนุมัติ  ผู้สมัครที่ได้รับการอนุมัติจะได้รับสิทธิต่าง ๆ ในข้อ 7  ทันที

สิทธิของสมาชิก

ข้อ 7 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิเท่าเทียมกันตามระเบียบข้อบังคับ ของสมาคม คือ
7.1 มีสิทธิในการประดับเข็มเครื่องหมายของสมาคมหรืออย่างอื่น (ถ้ามี)
7.2 มีสิทธิเสนอความคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความ เจริญก้าวหน้าแห่งกิจการของสมาคม  โดยผ่านเลขานุการสมาคม  เพื่อนำเสนอคณะกรรมการอำนวยการพิจารณา
7.3 มีสิทธิจะนำสุภาพชนเข้ามาในสมาคมได้  แต่สมาชิกผู้นำจะ ต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดขึ้นเพราะการกระทำ ของผู้นั้น
7.4 สมาชิกตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป  มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการ อำนวยการ  เพื่อให้มีการตรวจสอบเอกสารทางบัญชี  หรือ ทรัพย์สินของสมาคม  เมื่อมีเหตุผลสมควร
7.5 มีสิทธิจะใช้ห้องสมุดหรือยืมหนังสือตามระเบียบของห้อง สมุดได้  กรณีที่สมาคมดำเนินกิจกรรมในข้อนี้
7.6 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิที่จะรับเอกสารของสมาคม  เว้นแต่ สมาชิกที่ค้างชำระค่าบำรุงถึง 5  ปี  สมาคมจะงดส่งเอกสาร ให้จนกว่าจะได้ชำระค่าบำรุงครบถ้วนแล้ว

การขาดจากสมาชิกภาพ ข้อ 8 สมาชิกทุกประเภทจะสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ดังต่อไปนี้
8.1 ตาย
8.2 ลาออก
8.3 ต้องคำพิพากษาของศาลให้จำคุก  เว้นแต่ความผิดฐาน ลหุโทษหรือฐานประมาท  หรือความผิดทางการเมือง
8.4 ค้างค่าบำรุงเป็นเวลาติดต่อกันถึง 5 ปี เมื่อได้รับการทวงถาม เป้นทางการจากสมาคมแล้ว 3 ครั้ง  ก็ยังมิได้จัดการชำระให้ ก็ให้เหรัญญิกเสนอรายชื่อนั้นต่อที่ประชุมคณะกรรมการ อำนวยการ  เพื่อพิจารณาต่อไป
8.5 ทำตนให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สมาคมอย่างร้ายแรง  เช่นให้ร้ายป้ายสี สมาคมและคณะกรรมการอำนวยการ  หรือประพฤติตนเป็นที่รังเกียจ แก่สมาชิกทั้งหลาย  ความในข้อนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ อำนวยการ  ว่าสมควรจะลบชื่อออกจากทะเบียน  หรือ  ภาคทัณฑ์ หรือลงโทษสถานอื่น  ทั้งนี้คณะกรรมการอำนวยการต้องให้โอกาส สมาชิกผู้นั้นที่จะแสดงเหตุผลในการกระทำผิดก่อนการพิจารณาโทษ ยกเว้นมีหลักฐานความผิดที่ชัดแจ้ง  ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการ สามารถพิจารณาและวินิจฉัยในการลบชื่อออกจากสมาชิกได้เลย
8.6 ขาดคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งที่ระบุไว้ในข้อ 5   ทั้งนั้ให้เลขานุการ เสนอคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพิจารณาและวินิจฉัย การลาออกจากสมาชิกภาพ

ข้อ 9 สมาชิกคนใดไม่ประสงค์จะเป้นสมาชิกต่อไปอีก  สามารถยื่นใบลาออก ต่อเลขานุการสมาคม  เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการรับทราบ การกลับเข้าเป็นสมาชิกใหม่

ข้อ 10 สมาชิกคนใดที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมไปแล้ว  เมื่อ มีความประสงค์ที่จะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่  ให้ทำหนังสือแสดง ความจำนงเข้าเป็นสมาชิกของ อัล-อิศลาหสมาคมใหม่ตามระเบียบ การรับสมาชิกของสมาคม  โดยให้เลขานุการนำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการอำนวยการ  เพื่อพิจารณาเข้าเป็นสมาชิกใหม่ การบริหารงาน

ข้อ 11 ในการประชุมใหญ่สามัญ  ให้ที่ประชุมเลือกสมาชิกขื้นเป็นนายก สมาคมหนึ่งคน  อุปนายกสมาคมฝ่ายศาสนาและวิชการหนึ่งคน อุปนายกสมาคมฝ่ายบริหารหนึ่งคน  เหรัญญิกหนึ่งคน  และผู้ตรวจ สอบบัญชีหนึ่งคน

ข้อ 12 ภายในกำหนด 7 วัน  นับแต่วันที่สมาชิกเลือกตั้งนายก อุปนายก ฝ่ายศาสนาวิชาการ อุปนายกฝ่ายบริหารและเหรัญญิก  ประชุมกัน เลือกตั้งสมาชิกขื้นเป็นกรรมการ  และกรรมการเจ้าหน้าที่อีก 11 คน  รวมกันเป็นคณะกรรมการอำนวยการในการบริหารกิจการสมาคม

ข้อ 13 คณะกรรมการมีอายุในการดำรงตำแหน่งได้คราวละ 2 ปี  นับแต่วัน ที่ได้รับเลือกตั้งหรือจนกว่าจะมอบหมายงานให้กรรมการชุดใหม่เสร็จ เมื่อหมดอายุแล้วให้เรียกประชุมสมาชิกดำเนินการเลือกตั้งนายก ฯ อุปนายกฝ่ายศาสนาและวิชาการ อุปนายกฝ่ายบริหารและเหรัญญิก เลือกตั้งสมาชิกร่วมเป็นคณะกรรมการตามความในข้อ 12 กรรมการ เจ้าหน้าที่นี้อย่างน้อยต้องมีสาราณียกร  เลขานุการ ปฏิคม นายทะ เบียน  บรรณารักษ์  ประชาสัมพันธ์ และสมาชิกสัมพันธ์  ผู้ตรวจสอบ บัญชี  ไม่เป็นกรรมการอำนวยการสมาคม  จะเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีและ งบดุลของสมาคมเมื่อสิ้นปี  ซึ่งเหรัญญิกเป็นผู้จัดทำบัญชีของสมาคม
13.1 ให้อุปนายกฝ่ายศาสนาและวิชาการ  พิจารณาเชิญนักวิชาการ ศาสนาอิสลาม  ผู้ยึดมั่นในกิตาบุลลอฮและซุนนะห์เข้าร่วมเป็น นักวิชาการรับเชิญ ของอัล-อิศลาหสมาคม
13.2 นักวิชาการรับเชิญ และอนุกรรมการในตำแหนงต่าง ๆ  ไม่มี สิทธิ์เข้าร่วมประชุมในคณะกรรมการอำนวยการสมาคม ยกเว้น กรณีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตำหน่งนั้น ๆ การซ่อมตำแหน่งกรรมการ

ข้อ 14 หากตำแหน่งกรรมการนอกจากตำแหน่งนายกฯ อุปนายกฝ่ายศาสนา และวิชาการ  อุปนายกฝ่ายบริหารและเหรัญญิกว่างลง  ให้คณะกรรม การอำนวยการแต่งตั้งตำแหน่งที่ว่างขื้นแทน ผู้ที่เข้ารับตำแหน่งแทน  ย่อมมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่า กำหนดเวลาของผู้ที่ตนแทน อนึ่ง  เมื่ออายุการทำงานของคณะกรรมการอำนวยการใกล้จะหมด วาระ เช่น เหลือเวลาอีกไม่เกิน 3 เดือน  คณะกรรมการอำนวยการ สมาคมที่เหลืออยู่สามารถบริหารงานของสมาคมต่อไปได้โดยไม่ต้อง พิจารณาเลือกบุคคลอื่นเข้ามาเป็นกรรมการแทนจำนวนกรรมการที่ ขาดไป  ก็ให้บริหารต่อไปจนครบวาระ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการ สมาคมฯได้จัดแบ่งสายการบริหารงานตามแผนภูมิองค์กร   เพื่อแสดง ให้เห็นรูปแบบการบริหารงานของคณะกรรมการอำนวยการสมาคมฯ ดังนี้ คณะกรรมการอำนวยการอัล-อิศลาหฺสมาคม นายกสมาคมฯ   อุปนายกสมาคม     อุปนายกสมาคม ฝ่ายศาสนาวิชาการ   ผู้ตรวจสอบบัญชี ฝ่ายบริหาร   สาราณียกร เลขานุการ เหรัญญิก นายทะเบียน ประชาสัมพันธ์ บรรณารักษ์ สมาชิกสัมพันธ์ กรรมการกลาง ปฏิคม

ข้อ 15 อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการแบ่งออกได้ดังนี้
15.1 อำนาจและหน้าที่โดยทั่วไป 15.1.1 จัดทำแผนการดำเนินการประจำปีโดยฝ่ายต่าง ๆ ได้มีส่วน ร่วมในการคิดแผนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
15.1.2 จัดทำงบประมาณ รับ-จ่าย ประจำปีของสมาคมฯ  เพื่อให้ รองรับแผนการดำเนินการ  แต่งตั้งผู้ช่วยหรืออนุกรรมการ หรือเชิญนักวิชาการรับเชิญเข้ามาช่วยในการดำเนินกิจการ ไปตามวัตถุประสงค์
15.1.3 จัดทำทะเบียนสมาชิกให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและ ปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน บันทึกและรักษารายงานการประชุม
15.1.4 รักษาทรัพย์สิน และเอกสารสำคัญของสมาคมฯ
15.1.5 รายงานกิจการและงบดุลเมื่อครบรอบปีของการบริหาร งานของสมาคมฯ
15.1.6 การรับอนุญาตหรืออนุญาตให้องค์กรใด ๆ ในกิจกรรมใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของสมาคม  จะต้องนำเข้าพิจารณา อนุมัติในที่ประชุมก่อน  กรรมการไม่สามารถกระทำโดย พลการ
15.2 อำนาจและหน้าที่โดยเฉพาะแต่ละตำแหน่ง
15.2.1 นายกสมาคม มีหน้าที่เป็นประมุขในการบริหาร อำนวยการ และประสานงานเพื่อให้กิจการของสมาคมใด้ดำเนินไปตาม วัตถุประสงค์และระเบียบข้อบังคับของสมาคมฯ เป็นประธาน ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ  และออกเสียง ชี้ขาดในเมื่อคะแนนเสียงเท่ากันและดูแลการดำเนินงาน ให้อยู่ในระเบียบข้อบังคับของสมาคมฯ
15.2.2 อุปนายกฝ่ายบริหาร  มีหน้าที่ช่วยนายกสมาคมในกิจการ ทั่วไปของสมาคมและทำหน้าที่แทนนายกฯ  เมื่อนายกฯ ไม่อยู่ในฐานะสั่งการได้  อุปนายกฝ่ายบริหารมีหน้าที่ เฉพาะในการดูแลให้ความร่วมมือช่วยเหลือแก่เลขานุการ นายทะเบียน  ประชาสัมพันธ์  ปฏิคมและสมาชิกสัมพันธ์
15.2.3 อุปนายกฝ่ายศาสนาวิชาการ  มีหน้าที่ช่วยนายกฯในกิจ การด้านวิชาการสรรหานักวิชาการผู้มีความรู้มีความสา มารถในด้านวิชาการศาสนาอิสลาม  เข้าร่วมเป็นนักวิชา การรับเชิญของสมาคมฯ
15.2.4 เหรัญญิก  มีหน้าที่รับผิดชอบการเงินของสมาคมฯ  รับ- จ่าย ตามใบรับและสั่งจ่ายที่ถูกต้องฝากหรือถอนเงินของ สมาคมในระบบกระแสรายวันโดยลงนามร่วมกับนายก หรืออุปนายกฯ  เหรัญญิกจะเก็บเงินสดไว้ในมือเพียง 5,000 บาท (ห้าพันบาท)  เกินจากจำนวนนี้ต้องนำฝาก ธนาคารพาณิชย์ในระบบกระแสรายวัน  หรือออมทรัพย์ กับสถาบันหรือองค์กรที่ทำหน้าที่ออมทรัพย์ตามหลักการ ศาสนาอิสลาม  ที่คณะกรรมการอำนวยการ มีมติอนุมัติให้ ฝาก  หลังดำเนินการฝากเงินแล้ว  ต้องนำใบฝากเงิน แสดงต่อนายกฯ  และอุปนายกฯ ทุกคราว  เมื่อถึงสิ้น เดือน  ให้เหรัญญิกทำยอดรับ-จ่าย  เสนอคณะกรรมการ อำนวยการในการประชุมประจำเดือนทุก ๆ เดือน
15.2.5 เลานุการ  มีหน้าที่ติดต่อกับสมาชิกและบุคคลภายนอก แจ้งกำหนดการประชุมและการดำเนินกิจกรรม หรือการบรรยายศาสนธรรม  ให้คณะกรรมการหรือสมาชิกทราบไม่น้อย กว่า 3 วัน บันทึกรายงานการประชุม  และรายงานผลการ ปฏิบัติให้นายกสมาคมทราบก่อนวันประชุม 3 วัน
15.2.6 สาราณียกร  มีหน้าที่ดำเนินการในการจัดพิมพ์เอกสารของ สมาคมปกติและเอกสารอื่น ๆ  ให้ออกตามกำหนดเวลา ตลอดจนนำเสนอรายชื่ออนุกรรมการ เพื่อช่วยในการจัด พิมพ์เอกสารตลอดจนการแจกเผยแพร่เอกสารดังกล่าว
15.2.7 นายทะเบียน มีหน้าที่จัดทำทะเบียนรับและจำหน่ายสมาชิก รักษาทะเบียนสมาชิก  ร่วมมือกับเหรัญญิกสำรวจรายชื่อ สมาชิกที่ค้างชำระค่าบำรุงเพื่อการทวงถาม  หรือเสนอคณะ กรรมการอำนวยการแล้วแต่กรณี และส่งเอกสารให้สมาชิก
15.2.8 ปฏิคม  มีหน้าที่รับรองแขก  รักษาสมุดเยี่ยม  จัดการดู แลรักษาสถานที่สมาคม  ตลอดจนดูแลควบคุมการซ่อม แซม  บูรณะอาคาร พัสดุ  ครุภัณฑ์  อันเป็นสมบัติของ สมาคมให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
15.2.9 บรรณารักษ์  มีหน้าที่ดูแลปรับปรุงห้องสมุด  วางระเบียบ การยืมหนังสือ  หรือตำหรับตำราต่าง ๆ
15.2.10 ประชาสัมพันธ์  มีหน้าที่จัดทำและรับผิดชอบในการเผย แพร่ข่าวสาร  กิจการของสมาคมฯ ตามวัตถุประสงค์ของ สมาคมฯที่จัดทำในโอกาสต่าง ๆ ให้สมาชิกและบุคคลทั่ว ไปได้รับทราบ  หาโอกาสไปเยียมเยียนสถาบันต่าง ๆ ที่ ดำเนินงานตามกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺ  เพื่อประสาน สามัคคีและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นส่งเสริมและพัฒนา กิจกรรมของสมาคม
15.12.11 สมาชิกสัมพันธ์  มีหน้าที่ติดต่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิก สมาคมฯ  เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของ สมาชิก  และนำมาหารือในที่ประชุมคณะกรรมการอำนวย การ  เพื่อสนองตอบหรือชี้แจงความจำเป็นให้สมาชิกทราบ ตลอดจนจัดหมายกำหนดการออกเยี่ยมเยียนและบรรยาย ศาสนธรรมแก่หมู่สมาชิกตามโอกาสอำนวย
15.12.12 กรรมการกลาง  มีหน้าที่นำเสนอโครงการและพิจารณาข้อ เสนอของกรรมการอำนวยการฝ่ายต่าง ๆ  เพื่อออกความ เห็นและลงมติในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ การเลือกตั้งกรรมการอำนวยการ

ข้อ 16 เมื่อครบวาระของกรรมการบริหาร  ให้คณะกรรมการอำนวยการเรียกประชุม ใหญ่สามัญภายใน เดือนกุมภาพันธ์ ณ สำนักงานสมาคมฯ  หรือสถานที่ที่กำ   หนด  เพื่อให้สมาชิกฯ  ได้เลือกตั้งนายกฯ อุปนายกฝ่ายศาสนาและวิชาการ  อุปนายกฝ่ายบริหาร  เหรัญญิก  และผู้ตรวจสอบบัญชี  ให้เลขานุการจัดพิมพ์ รายชื่อสมาชิก  ประกาศไว้ ณ ที่ประกาศของสมาคมฯ  และมัสยิดอันซอริซ ซุนนะฮฺ  ไม่น้อยกว่า 5 ชุด การประชุมของคณะกรรมการอำนวยการ

ข้อ 17 การประชุมของคณะกรรมการอำนวยการมี 2 อย่าง คือ
17.1 การประชุมปกติ  ให้มีเดือนละอย่างน้อย 1 ครั้ง  ให้เลขานุการแจ้ง กำหนดและระเบียบวาระการประชุม  พร้อมด้วยรายงานการประชุม ครั้งหลังสุดที่ผ่านไปให้กรรมการอำนวยการได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อย กว่า 2วัน
17.2 การประชุมพิเศษ  ซึ่งนายกฯ หรือคณะการรมการอำนวยการไม่ต่ำ กว่า 5 คน  ขอร้องให้เรียกประชุมตามกาละที่จำเป็น  แต่ต้องแจ้ง คณะกรรมการอำนวยการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

ข้อ 18 ข้อความใดที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับนี้  ให้ใช้ระเบียบข้อบังคับ การประชุมที่นิยมแพร่หลายบังคับโดยอนุโลม

ข้อ 19 การประชุมคณะกรรมการอำนวยการ  ต้องมีกรรมการมานั่งประชุมไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง  จึงจะนับเป็นองค์ประชุมได้

ข้อ 20 ถ้าการเรียกประชุมครั้งแรก  กรรมการมาไม่ครบองค์ประชุม  ให้เลขานุการ เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน 7 วัน  นับแต่วันประชุมครั้งแรก  กรรมการมา เพียงหนึ่งในสามก็นับองค์ประชุมได้ การประชุมใหญ่ของสมาคม

ข้อ 21 การประชุมใหญ่ของสมาคม มี 2 อย่าง คือ
21.1 การประชุมใหญ่สามัญ  ซึ่งมี 2 ปีต่อครั้งหนึ่ง  ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อแถลงผลการดำเนินการสมัยที่ผ่านมา  และดำเนินการเลือกตั้ง นายกสมาคม  อุปนายกสมาคมฝ่ายศาสนาและวิชาการ  อุปนายก สมาคมฝ่ายบริหาร  เหรัญญิก  และผู้ตรวจสอบบัญชี  ส่วนวิธีการ เลือกตั้งให้ที่ประชุมกำหนดขึ้นตามแต่จะเห็นสมควร
21.2 การประชุมใหญ่วิสามัญ  ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการ หรือสมาชิก ไม่น้อยกว่า 30 คน  ให้เรียกประชุมเพื่อกิจการอันสำคัญของสมาคม

ข้อ 22 การประชมใหญ่วิสามัญนั้น  ผู้ขอร้องให้เรียกประชุม  ต้องแจ้งความจำนง เป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขานุการก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้เลขานุการเรียกสมาชิกประชุม  โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อย กว่า 7 วัน

ข้อ 23 ในการประชุมทุกชนิดของสมาคม  ผู้ที่ไม่เข้ามานั่งประชุม  ไม่มีสิทธิออก เสียงลงคะแนน

ข้อ 24 ในการประชุมใหญ่สามัญก็ดี หรือการประชุมใหญ่วิสามัญก็ดี  ต้องมีสมาชิก นั่งประชุมไม่ต่ำกว่า 100 คน  จึงจะนับเป็นองค์ประชุมได้

ข้อ 25 ในการประชุมใหญ่ทั้งสองประเภทนั้น  ให้สมาชิกที่มาประชุมเลือกตั้ง ประธานขึ้นหนึ่งนาย  และเลขานุการหนึ่งนาย  ประธานและเลขานุการนี้มี อำนาจและหน้าที่  เฉพาะการประชุมคราวหนึ่ง ๆ เท่านั้น  เมื่อการประชุม คราวนี้สิ้นสุดลง  ประธานและเลขานุการก็สิ้นสภาพการเป็นประธานและ เลขานุการ

ข้อ 26 ในการเรียกประชุมใด ๆ  หากการเรียกประชุมครั้งแรก  สมาชิกมาไม่ครบ องค์ประชุม  ให้เลขานุการเรียกประชุมใหม่  อีกภายใน 30 วัน  นับแต่วัน ประชุมครั้งแรก  ในการประชุมครั้งหลังนี้แม้สมาชิกไม่ถึง 100 คน  ก็ให้ ถือเป็นองค์ประชุมได้ การแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบข้อบังคับ

ข้อ 27 คณะกรรมการมีอำนาจที่จะแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบข้อบังคับของสมาคมได้ โดยคะแนนเสียงเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของ กรรมการทั้งหมด การเลิกล้มสมาคม

ข้อ 28 หากสมาคมต้องเลิกล้มไปด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ดี  ทรัพย์สินทั้งสิ้นของสมาคม ให้โอนไปยังสมาคมหรือองค์การกุศลอื่นใดที่มีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกันกับสมาคมนี้  มติในการโอนนี้ต้องมีเสียงเห็นชอบด้วยไม่   ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของกรรมการที่มาประชุม    

Message us